สรุปท้ายบทที่
5
การสื่อสารโทรคมนาคม คือการแลกเปลี่ยนสารสนเทศที่อยู่ในรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสียง ข้อมูล ข้อความ รูปภาพ ออดิโอ และวิดีโอ ด้วยการส่งผ่านเครือข่าย
แนวโน้มด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ประกอบด้วยแนวโน้มในสามด้าน 3 ด้านด้วยกัน คือ
1. แนวโน้มด้านอุตสาหกรรม
2. แนวโน้มด้านเทคโนโลยี
3. แนวโน้มด้านการใช้งานทางธุรกิจ
มูลค่าทางธุรกิจ ของระบบการสื่อสารโทรคมนาคม ช่วยขจัดปัญหาต่างๆ ได้ดังนี้
1. ขจัดปัญหาอุปสรรคด้านภูมิศาสตร์
2. ขจัดปัญหาด้านเวลา
3. ขจัดปัญหาเกี่ยวกับต้นทุน
4. ขจัดปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้าง
ชนิดของเครือข่าย ยังสามารถจัดแบ่งประเภทออก
1. เครือข่ายส่วนบุคคล (PAN)
2. เครือข่ายท้องถิ่น (LAN)
3. เครือข่ายระดับเมือง (MAN)
4. เครือข่ายระดับประเทศ (WAN)
สื่อกลางส่งข้อมูล ยังสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดด้วยกันคือ สื่อกลางส่งข้อมูลแบบมีสายและสื่อกลางส่งข้อมูลแบบไร้สาย
ตัวอย่างสื่อกลางส่งข้อมูลแบบมีสาย เช่น สายคู่บิดเกลียว สายโคแอกเชียล สายไฟเบอร์ออปติก
ตัวอย่างสื่อกลางส่งข้อมูลแบบไร้สาย เช่น คลื่นวิทยุ ไมโครเวฟ โทรศัพท์เคลื่อนที่ อินฟราเรด บลูทูธ และWAP
เร้าเตอร์ เป็นอุปกรณ์สำคัญของเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ถูกนำมาใช้ เพื่อกำหนดและวางเส้นทางในการส่งทอดข้อมูลข่างสารไปยังจุดหมายปลายทาง ตามเส้นทางที่กำหนดไว้โดยเส้นทางในการส่งผ่านจะมีหลายเส้นทางด้วยกัน แต่เร้าเตอร์จะพิจารณาและตัดสินใจเส้นทางที่เหมาะสมให้ จนกระทั่งข่าวสารได้ถูกส่งไปถึงปลายทางได้ในที่สุด
แพ็กเก็ต คือชิ้นส่วนของข้อมูลที่ถูกนำมาแบ่งย่อยออกเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อส่งผ่านสื่อกลางในระบบเครือข่าย
TCP/IP เป็นโปรโตคอลที่ทำหน้าที่นำส่งข่าวสารไปถึงปลายทางบนเครือข่าย เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ TCP/IP ยังเป็นโปรโตคอลที่มีความน่าเชื่อถือ มีการรับประกันการส่งถึงที่หมายปลายทาง
URL คือข้อความที่นำมาใช้อ้างอิงระบุตำแหน่งเอกสารหรือเว็บเพจบนเวิลด์ไวด์เว็บ
http เป็นวิธีการโต้ตอบกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะอยู่ใน URL
หมายเลขไอพี คือหมายเลขที่นำมาใช้อ้างอิงโหนดต่างๆ บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะมีตัวเลขไม่ซ้ำกัน โดยโหนดในที่นี้ อาจเป็นคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์บนเครือข่ายก็ได้
DNS เป็นระบบการตั้งชื่อบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะใช้ชื่อหรือข้อความอ้างอิงแทนหมายเลขไอพีเพื่อให้จดจำได้ง่าย หน้าที่ของ DNS จะแปลงชื่อโดเมนมาเป็นหมายเลขไอพีอีกทอดหนึ่ง สำหรับชื่อเมนจะมี โครงสร้างเป็นลำดับชั้น ประกอบด้วยชื่อคอมพิวเตอร์ ชื่อเครือข่าย ชื่อซับโดเมน และชื่อโดเมน
การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต สามารถดำเนินการได้หลายวิธีด้วยกัน คือ
1. การเชื่อมต่อผ่านแบบเครือข่ายแลน
2. การเชื่อมต่อแบบหมุนโทรศัพท์
3. การเชื่อมต่อผ่านการบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (ADSL)
4. การเชื่อมต่อแบบไร้สาย เช่น Wi-Fi หรือเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่
ISP คือผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อให้หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ รวมถึงผู้คนทั่วไป สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้
อินทราเน็ต เป็นเครือข่ายภายในองค์กร ที่ถูกสร้างขึ้นมาตามมาตรฐานเทคโนโลยีเดียวกันกับอินเทอร์เน็ตและเวิลด์ไวด์เว็บ
เอ็กซ์ทราเน็ต คือเครือข่ายส่วยบุคคล ที่พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเช่นกัน โดยมีข้อจำกัดในการเข้าถึงไซต์เฉพะพนักงานในองค์กร
VolP เป็นเทคโนโลยีทีใช้สัญญาณข้อมูลเสียงซึ่งเป็นแบบแอนะล็อก มาแปลงเป็นสัญญาณดิจิตอลและนำมาบรรจุลงในหน่วยข้อมูลที่เรียกว่าแพ็กเก็ต
RFID คือระบบบ่งชี้ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เป็นระบบที่มีความสามารถในการระบุเพื่อค้นหาวัตถุ ที่มีจุดเด่นหลายประการ
Converging Technogies คือการหล่อหลอมรวมเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะหมายถึงอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่มีการผนวกฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ มากมาย เสมือนมีหลายๆ อุปกรณ์มารวมกัน ตังอย่างเช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น
กรณีศึกษา : JetBlue กลยุทธ์ที่นำไปสู่ความสำเร็จของสายการบินต้นทุนต่ำ
JetBlue ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อราวเดือนกุมภาพันธ์ปี ค.ศ.2000โดย David Neeleman ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO และด้วยอุตสาหกรรมในธุรกิจสายการบินที่มีการแข่งขันกันสูงมาก ทาง JetBlue จึงได้นำกลยุทธ์ความเป็นผู้นำด้านต้นทุนเพื่อชิงความได้เปรียบการแข่งขัน ด้วยการกำหนดราคาตั๋วเที่ยวบินให้มีราคาถูก ประกอบการปรับปรุงด้านบริการแก่ลูกค้าควบคู่ไปด้วย จึงเป็นที่มาของการดำเนินของธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airlines )
ในความเป็นจริงแล้ว สายการบินต้นทุนต่ำ เป็นรูปแบบุรกิจที่มีนานกว่า 30 ปีแล้ว โดยสายการบิน Southwest Airlines เป็นผู้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1971 อย่างไรก็ตาม ในระยะเริ่มแรกที่ทาง JetBlue ได้เข้ามามีส่วนร่วมในตลาดนี้ ยังคงไม่ส่งผลกระทบต่อ Southwest Airelines มากนักเนื่องจากต่างก็มีกลุ่มลูกค้าของตน อีกทั้งยังเส้นทางการบินก็ไม่ค่อยมีการทับเส้นทางระกว่างกันมากนัก แต่ในเวลาต่อ ได้มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ต้องการรักษาตลาดของตนไว้รวมถึงการขยายกลุ่มลูกค้าของตนให้มากยิ่งขึ้น
ปกติเรามักจะนึกถึงองค์กรภาคการผลิต ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานแบบอัตโนมัติ แต่ประโยชน์หรือผลกำไรก็สามารถหาได้จากการบริการแบบอัตโนมัติเช่นกัน ดังนั้นทาง jetblue
JetBlue ได้นำระบบอัตโนมัติมาใช้กับงานสายการบิน พนักงานบำรุงรักษาเครื่องบินจะใช้ระบบสารสนเทศเพื่องานบำรุงรักษาจากบริษัท Dash Group โดยระบบจะล็อกชิ้นส่วนเครื่องบินและรอบเวลาทำงานเหล่านั้นทั้งหมด เมื่อชิ้นส่วนอะไหล่ชิ้นนั้นๆ ถึงถึงเวลาได้รับการแทนที่ด้วยอะไหล่ชิ้นใหม่
ในส่วนการวางแผนการบินเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จำนวนที่นั่งที่ได้รับการจองบนเที่ยวบินต่างๆ ได้รับการดำเนินงานอยู่บนซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้ช่วยลดต้นทุนการวางแผน และการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ทาง JetBlue ยังมีทีมงานพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีจำนวน 58 คน ในการพัฒนาระบบภายในเพื่อใช้งานเอง ภายใต้ชื่อว่า “Blue Performance” ซึ่งนำมาใช้ติดตามข้อมูลการปฏิบัติงานเพื่ออัปเดตเที่ยวบินในแต่ละเที่ยว โดยหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในการปฏิบัติงานของสายการบินระบบก็จะสามารถรายงานผลและปัญหาต่างๆ ให้รับทราบโดยทันที
ในส่วนงานภาคพื้นดิน พนักงานจะใช้อุปกรณ์ไร้สายเพื่อรายงานผลถึงเหตุการณ์ที่ผิดปกติทุกๆ ด้าน เช่น เที่ยวบินที่ล่าช้าจากสภาพอากาศแปรปรวน เพื่อแจ้งให้ผู้โดยสารรับทราบ ซี่งจะมีผลตอบรับอันรวดเร็ว และทุกๆ เหตุการณ์จะได้รับการบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อไปภายหลัง
สำหรับงานฝึกอบรม เมื่อมีการฝึกอบรมนักบินและพนักงานอื่นๆ ทั่วไป จะไม่มีการใช้กระดาษบันทึกแต่อย่างใด โดยซอฟแวร์ระบบจัดการฝึกอบรมการบิน ได้จัดเตรียมฐานข้อมูลเพื่อติดตามการบันทึกการฝึกอบรมของพนักงานแต่ละคน ซึ่งง่ายต่อการอัปเดตและเรียกดูข้อมูล
กรณีศึกษา : Wal-Mart กับผู้ก่อตั้งที่เห็นความสำคัญต่อนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
หากกล่าวถึงความเป็นผู้นำทางด้านต้นทุน หนึ่งในตัวอย่างที่น่าศึกษามากที่สุดก็คงไม่พ้น ห้าง Wal-Mart โดย Sam Walton ผู้ก่อตั้ง Wal-Mart ได้เริ่มธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็กๆ ในชนบทของประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี ค.ศ.1962 โดยก่อตั้งเป็นร้านค้าปลีกแบบ Discount Store ที่ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีแก่ลูกค้าในละแวกนั้น ทั้งนี้ Sam Walton ได้ใช้หลักการบริหารตามพันธกิจดังนี้คือ
1. เคารพลูกค้าและพนักงานทุกคนสมควรได้รับการดูแล และให้เกียรติซึ่งกันและกัน
2. บริการลูกค้าด้วยการเสนอสินค้าในราคาที่ถูกที่สุด และบริการที่ดีที่สุด
3. พยายามทำในสิ่งที่มีความเป็นเลิศ ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ เพื่อไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
จะพบว่า Sam Walton เป็นบุคคลที่มองการณ์ไกล และเล็งเห็นความสำคัญต่อนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจ จนกระทั่งประสบผลสำเร็จ และเป็นร้านค้าปลีกที่เป็นผู้นำด้านต้นทุนมาโดยตลอด
แต่ความสำคัญที่จะกล่าวในกรณีศึกษาในที่นี้ มิได้มุ่งเน้นถึงความเป็นผู้นำต้นทุน แต่จะมุ่งความสำคัญไปที่ Wal-Mart ได้เห็นความสำคัญต่อโครงการพื้นฐานทางไอที นวัตกรรม หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะผู้บริหารได้เห็นความสำคัญต่อการจัดการเทคโนโลยีกับการสร้างความได้เปรียบในเชิงแข่งขันมาก ถึงกับได้ระบุไว้ในพันธกิจ นอกจากนี้ ยังได้นำ S-Curve เพื่อเสนอความสามารถของเทคโนโลยีในรูปแบบของกราฟ ด้วยการบันทึกเหตุการณ์ปัจจุบัน หรือคาดคะเนระยะเวลาอายุการใช้งานของตัวเทคโนโลยีนั้นๆ ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆ ล้วนแต่มีขีดจำกัดทางธรรมชาติของตัวมันเองอยู่แล้ว ดังนั้น S-Curve จึงเป็นกราฟที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของเทคโนโลยีในแต่ละช่วง ที่แลดูเป็นเส้นโค้งคล้ายตัว S ที่บ่งบอกสถานะของเทคโนโลยีในช่วงเริ่มต้น ช่วงเติบโต ช่วงอยู่ตัว และสุดท้ายคือช่วงของการหายไปของเทคโนโลยี และจากการคาดคะเนด้วยเทคนิค S-Curve นี้เอง จึงทำให้สามารถวิเคราะห์วงจรชีวิตของเทคโนโลยี ครั้นเมื่อเทคโนโลยีตัวใดเสื่อมค่าลงไป ก็จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อทดแทนหรือขยายขีดความสามารถของเทคโนโลยีนั้นๆ ได้ต่อไป เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวงจรผลิตภัณฑ์ และเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการนำผลิตภัณฑ์นั้นๆ ออกสู่ท้องตลาดต่อไป
Wal-Mart เป็นบริษัทที่ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีมาทำธุรกิจ และถือเป็นบริษัทรายแรกๆ ของอเมริกา ที่นำเครื่องเก็บเงินด้วยการนำเทคโนโลยีเครื่องอ่านบาร์โค้ดมาใช้ โดยเทคโนโลยีบาร์โค้ดที่ถูกนำมาใช้งานตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน ก็ได้พบถึงขีดจำกัดโดยธรรมชาติของตัวมันเองแล้ว ดังนั้น ในปี ค.ศ.2004 ทาง Wal-Mart จึงได้ริเริ่มทำเทคโนโลยี RFID มาใช้ และ RFID ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจค้าปลีกอีกครั้ง โดยถูกนำมาเป็นส่วนหลักของการพัฒนาโซ่อุปทานของบริษัท ควบคู่ไปกับการใช้ระบบ EDI ในการแลกเปลี่ยนเอกสารและประสานงานกับผู้ขายปัจจัยการผลิต การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง การจัดการโลจิสติกส์ ซึ่งล้วนแต่มีการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนเพื่อขับเคลื่อนไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างโอกาสในการทำกำไร ด้วยการมีพันธมิตรร่วมค้าที่เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตด้านสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ ส่งผลต่ออำนาจการต่อรองสินค้าสูง และช่วยลดต้นทุน จนกระทั่งกลายเป็นผู้นำทางด้านต้นทุนในที่สุด
ครั้นเมื่อมองธุรกิจของ Wal-Mart แล้ว จะพบว่าความได้เปรียบในเชิงแข่งขันของยักษ์ใหญ่ในวงการค้าปลีกรายนี้ เกิดจากการบริหารจัดการกิจกรรมต่างๆ ในห่วงโซ่คุณค่าอย่างมีประสิทธิภาพทาง Wal-Mart ได้ติดตั้งซอฟต์แวร์เพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้า เพื่อนำมาใช้ประเมินการใช้จ่ายและประเมินพฤติกรรมการใช้เงินของลูกค้า ข้อมูลเหล่านี้จะถูกจัดส่งให้กับผู้จัดส่งสินค้าของ Wal-Mart และยังมีการใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อใช้บริษัทบริหารสต็อกสินค้าอีกด้วย ดังนั้นสินค้าที่ขายดีภายในห้าง ก็จะได้รับการเติมเต็มอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้อนให้กับผู้ซื้อตรงตามปริมาณความต้องการ ทำให้ผู้ซื้อหรือสินค้าได้รับความพึงพอใจ คลายความกังวลกับสินค้าขาดตลาด ที่มิใช่เป็นกรณีของสินค้าขาดสต็อก และทำสูญเสียโอกาสในการขายไป
กลยุทธ์อันสำคัญของทาง Wal-Mart ก็คือ การซื้อมาในราคาต่ำ ขายไปในราคาถูก และมุ่งทำกำไรจากยอดปริมาณการขายที่ขายออกไปอย่างรวดเร็ว และเร็วกว่าคู่แข่งขันรายอื่นๆ โดย Wal-Mart มีการใช้ระบบเติมเต็มสินค้าคงคลังแบบอัตโนมัติ ด้วยการใช้พื้นที่ภายในห้าง เป็นที่จำหน่ายสินค้าและสต็อกสินค้าบนชั้นในคราวเดียวกัน สินค้าที่นำมาเติมให้เต็มจะถูกดำเนินการตามพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้า โดยมีระบบสารสนเทศที่เชื่อมโยงถึงกันทั้งระบบร่วมกับผู้ขายหรือซัปพลายเออร์รายต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงระบบเพื่อตรวจสอบได้ตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการสร้างโอกาสในการขาย ซึ่งเป็นที่ของกำไร และช่วยลดรายจ่ายจากการกักตุนสินค้าและคลังสินค้า โดยความสำเร็จเหล่านี้ ล้วนมาจาก การนำเทคโนโลยีมาบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่า ลูกค้าแม้อยู่ห่างไกลจากแหล่งที่ตั้งของตัวห้าง ยังเจาะจงเดินทางเข้ามาเพื่อจับจ่ายซื้อสินค้ากับทางห้างด้วยความยินดี
การสื่อสารโทรคมนาคม คือการแลกเปลี่ยนสารสนเทศที่อยู่ในรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสียง ข้อมูล ข้อความ รูปภาพ ออดิโอ และวิดีโอ ด้วยการส่งผ่านเครือข่าย
แนวโน้มด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ประกอบด้วยแนวโน้มในสามด้าน 3 ด้านด้วยกัน คือ
1. แนวโน้มด้านอุตสาหกรรม
2. แนวโน้มด้านเทคโนโลยี
3. แนวโน้มด้านการใช้งานทางธุรกิจ
มูลค่าทางธุรกิจ ของระบบการสื่อสารโทรคมนาคม ช่วยขจัดปัญหาต่างๆ ได้ดังนี้
1. ขจัดปัญหาอุปสรรคด้านภูมิศาสตร์
2. ขจัดปัญหาด้านเวลา
3. ขจัดปัญหาเกี่ยวกับต้นทุน
4. ขจัดปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้าง
ชนิดของเครือข่าย ยังสามารถจัดแบ่งประเภทออก
1. เครือข่ายส่วนบุคคล (PAN)
2. เครือข่ายท้องถิ่น (LAN)
3. เครือข่ายระดับเมือง (MAN)
4. เครือข่ายระดับประเทศ (WAN)
สื่อกลางส่งข้อมูล ยังสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดด้วยกันคือ สื่อกลางส่งข้อมูลแบบมีสายและสื่อกลางส่งข้อมูลแบบไร้สาย
ตัวอย่างสื่อกลางส่งข้อมูลแบบมีสาย เช่น สายคู่บิดเกลียว สายโคแอกเชียล สายไฟเบอร์ออปติก
ตัวอย่างสื่อกลางส่งข้อมูลแบบไร้สาย เช่น คลื่นวิทยุ ไมโครเวฟ โทรศัพท์เคลื่อนที่ อินฟราเรด บลูทูธ และWAP
เร้าเตอร์ เป็นอุปกรณ์สำคัญของเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ถูกนำมาใช้ เพื่อกำหนดและวางเส้นทางในการส่งทอดข้อมูลข่างสารไปยังจุดหมายปลายทาง ตามเส้นทางที่กำหนดไว้โดยเส้นทางในการส่งผ่านจะมีหลายเส้นทางด้วยกัน แต่เร้าเตอร์จะพิจารณาและตัดสินใจเส้นทางที่เหมาะสมให้ จนกระทั่งข่าวสารได้ถูกส่งไปถึงปลายทางได้ในที่สุด
แพ็กเก็ต คือชิ้นส่วนของข้อมูลที่ถูกนำมาแบ่งย่อยออกเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อส่งผ่านสื่อกลางในระบบเครือข่าย
TCP/IP เป็นโปรโตคอลที่ทำหน้าที่นำส่งข่าวสารไปถึงปลายทางบนเครือข่าย เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ TCP/IP ยังเป็นโปรโตคอลที่มีความน่าเชื่อถือ มีการรับประกันการส่งถึงที่หมายปลายทาง
URL คือข้อความที่นำมาใช้อ้างอิงระบุตำแหน่งเอกสารหรือเว็บเพจบนเวิลด์ไวด์เว็บ
http เป็นวิธีการโต้ตอบกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะอยู่ใน URL
หมายเลขไอพี คือหมายเลขที่นำมาใช้อ้างอิงโหนดต่างๆ บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะมีตัวเลขไม่ซ้ำกัน โดยโหนดในที่นี้ อาจเป็นคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์บนเครือข่ายก็ได้
DNS เป็นระบบการตั้งชื่อบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะใช้ชื่อหรือข้อความอ้างอิงแทนหมายเลขไอพีเพื่อให้จดจำได้ง่าย หน้าที่ของ DNS จะแปลงชื่อโดเมนมาเป็นหมายเลขไอพีอีกทอดหนึ่ง สำหรับชื่อเมนจะมี โครงสร้างเป็นลำดับชั้น ประกอบด้วยชื่อคอมพิวเตอร์ ชื่อเครือข่าย ชื่อซับโดเมน และชื่อโดเมน
การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต สามารถดำเนินการได้หลายวิธีด้วยกัน คือ
1. การเชื่อมต่อผ่านแบบเครือข่ายแลน
2. การเชื่อมต่อแบบหมุนโทรศัพท์
3. การเชื่อมต่อผ่านการบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (ADSL)
4. การเชื่อมต่อแบบไร้สาย เช่น Wi-Fi หรือเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่
ISP คือผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อให้หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ รวมถึงผู้คนทั่วไป สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้
อินทราเน็ต เป็นเครือข่ายภายในองค์กร ที่ถูกสร้างขึ้นมาตามมาตรฐานเทคโนโลยีเดียวกันกับอินเทอร์เน็ตและเวิลด์ไวด์เว็บ
เอ็กซ์ทราเน็ต คือเครือข่ายส่วยบุคคล ที่พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเช่นกัน โดยมีข้อจำกัดในการเข้าถึงไซต์เฉพะพนักงานในองค์กร
VolP เป็นเทคโนโลยีทีใช้สัญญาณข้อมูลเสียงซึ่งเป็นแบบแอนะล็อก มาแปลงเป็นสัญญาณดิจิตอลและนำมาบรรจุลงในหน่วยข้อมูลที่เรียกว่าแพ็กเก็ต
RFID คือระบบบ่งชี้ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เป็นระบบที่มีความสามารถในการระบุเพื่อค้นหาวัตถุ ที่มีจุดเด่นหลายประการ
Converging Technogies คือการหล่อหลอมรวมเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะหมายถึงอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่มีการผนวกฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ มากมาย เสมือนมีหลายๆ อุปกรณ์มารวมกัน ตังอย่างเช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น
กรณีศึกษา : JetBlue กลยุทธ์ที่นำไปสู่ความสำเร็จของสายการบินต้นทุนต่ำ
JetBlue ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อราวเดือนกุมภาพันธ์ปี ค.ศ.2000โดย David Neeleman ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO และด้วยอุตสาหกรรมในธุรกิจสายการบินที่มีการแข่งขันกันสูงมาก ทาง JetBlue จึงได้นำกลยุทธ์ความเป็นผู้นำด้านต้นทุนเพื่อชิงความได้เปรียบการแข่งขัน ด้วยการกำหนดราคาตั๋วเที่ยวบินให้มีราคาถูก ประกอบการปรับปรุงด้านบริการแก่ลูกค้าควบคู่ไปด้วย จึงเป็นที่มาของการดำเนินของธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airlines )
ในความเป็นจริงแล้ว สายการบินต้นทุนต่ำ เป็นรูปแบบุรกิจที่มีนานกว่า 30 ปีแล้ว โดยสายการบิน Southwest Airlines เป็นผู้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1971 อย่างไรก็ตาม ในระยะเริ่มแรกที่ทาง JetBlue ได้เข้ามามีส่วนร่วมในตลาดนี้ ยังคงไม่ส่งผลกระทบต่อ Southwest Airelines มากนักเนื่องจากต่างก็มีกลุ่มลูกค้าของตน อีกทั้งยังเส้นทางการบินก็ไม่ค่อยมีการทับเส้นทางระกว่างกันมากนัก แต่ในเวลาต่อ ได้มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ต้องการรักษาตลาดของตนไว้รวมถึงการขยายกลุ่มลูกค้าของตนให้มากยิ่งขึ้น
ปกติเรามักจะนึกถึงองค์กรภาคการผลิต ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานแบบอัตโนมัติ แต่ประโยชน์หรือผลกำไรก็สามารถหาได้จากการบริการแบบอัตโนมัติเช่นกัน ดังนั้นทาง jetblue
JetBlue ได้นำระบบอัตโนมัติมาใช้กับงานสายการบิน พนักงานบำรุงรักษาเครื่องบินจะใช้ระบบสารสนเทศเพื่องานบำรุงรักษาจากบริษัท Dash Group โดยระบบจะล็อกชิ้นส่วนเครื่องบินและรอบเวลาทำงานเหล่านั้นทั้งหมด เมื่อชิ้นส่วนอะไหล่ชิ้นนั้นๆ ถึงถึงเวลาได้รับการแทนที่ด้วยอะไหล่ชิ้นใหม่
ในส่วนการวางแผนการบินเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จำนวนที่นั่งที่ได้รับการจองบนเที่ยวบินต่างๆ ได้รับการดำเนินงานอยู่บนซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้ช่วยลดต้นทุนการวางแผน และการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ทาง JetBlue ยังมีทีมงานพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีจำนวน 58 คน ในการพัฒนาระบบภายในเพื่อใช้งานเอง ภายใต้ชื่อว่า “Blue Performance” ซึ่งนำมาใช้ติดตามข้อมูลการปฏิบัติงานเพื่ออัปเดตเที่ยวบินในแต่ละเที่ยว โดยหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในการปฏิบัติงานของสายการบินระบบก็จะสามารถรายงานผลและปัญหาต่างๆ ให้รับทราบโดยทันที
ในส่วนงานภาคพื้นดิน พนักงานจะใช้อุปกรณ์ไร้สายเพื่อรายงานผลถึงเหตุการณ์ที่ผิดปกติทุกๆ ด้าน เช่น เที่ยวบินที่ล่าช้าจากสภาพอากาศแปรปรวน เพื่อแจ้งให้ผู้โดยสารรับทราบ ซี่งจะมีผลตอบรับอันรวดเร็ว และทุกๆ เหตุการณ์จะได้รับการบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อไปภายหลัง
สำหรับงานฝึกอบรม เมื่อมีการฝึกอบรมนักบินและพนักงานอื่นๆ ทั่วไป จะไม่มีการใช้กระดาษบันทึกแต่อย่างใด โดยซอฟแวร์ระบบจัดการฝึกอบรมการบิน ได้จัดเตรียมฐานข้อมูลเพื่อติดตามการบันทึกการฝึกอบรมของพนักงานแต่ละคน ซึ่งง่ายต่อการอัปเดตและเรียกดูข้อมูล
กรณีศึกษา : Wal-Mart กับผู้ก่อตั้งที่เห็นความสำคัญต่อนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
หากกล่าวถึงความเป็นผู้นำทางด้านต้นทุน หนึ่งในตัวอย่างที่น่าศึกษามากที่สุดก็คงไม่พ้น ห้าง Wal-Mart โดย Sam Walton ผู้ก่อตั้ง Wal-Mart ได้เริ่มธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็กๆ ในชนบทของประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี ค.ศ.1962 โดยก่อตั้งเป็นร้านค้าปลีกแบบ Discount Store ที่ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีแก่ลูกค้าในละแวกนั้น ทั้งนี้ Sam Walton ได้ใช้หลักการบริหารตามพันธกิจดังนี้คือ
1. เคารพลูกค้าและพนักงานทุกคนสมควรได้รับการดูแล และให้เกียรติซึ่งกันและกัน
2. บริการลูกค้าด้วยการเสนอสินค้าในราคาที่ถูกที่สุด และบริการที่ดีที่สุด
3. พยายามทำในสิ่งที่มีความเป็นเลิศ ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ เพื่อไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
จะพบว่า Sam Walton เป็นบุคคลที่มองการณ์ไกล และเล็งเห็นความสำคัญต่อนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจ จนกระทั่งประสบผลสำเร็จ และเป็นร้านค้าปลีกที่เป็นผู้นำด้านต้นทุนมาโดยตลอด
แต่ความสำคัญที่จะกล่าวในกรณีศึกษาในที่นี้ มิได้มุ่งเน้นถึงความเป็นผู้นำต้นทุน แต่จะมุ่งความสำคัญไปที่ Wal-Mart ได้เห็นความสำคัญต่อโครงการพื้นฐานทางไอที นวัตกรรม หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะผู้บริหารได้เห็นความสำคัญต่อการจัดการเทคโนโลยีกับการสร้างความได้เปรียบในเชิงแข่งขันมาก ถึงกับได้ระบุไว้ในพันธกิจ นอกจากนี้ ยังได้นำ S-Curve เพื่อเสนอความสามารถของเทคโนโลยีในรูปแบบของกราฟ ด้วยการบันทึกเหตุการณ์ปัจจุบัน หรือคาดคะเนระยะเวลาอายุการใช้งานของตัวเทคโนโลยีนั้นๆ ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆ ล้วนแต่มีขีดจำกัดทางธรรมชาติของตัวมันเองอยู่แล้ว ดังนั้น S-Curve จึงเป็นกราฟที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของเทคโนโลยีในแต่ละช่วง ที่แลดูเป็นเส้นโค้งคล้ายตัว S ที่บ่งบอกสถานะของเทคโนโลยีในช่วงเริ่มต้น ช่วงเติบโต ช่วงอยู่ตัว และสุดท้ายคือช่วงของการหายไปของเทคโนโลยี และจากการคาดคะเนด้วยเทคนิค S-Curve นี้เอง จึงทำให้สามารถวิเคราะห์วงจรชีวิตของเทคโนโลยี ครั้นเมื่อเทคโนโลยีตัวใดเสื่อมค่าลงไป ก็จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อทดแทนหรือขยายขีดความสามารถของเทคโนโลยีนั้นๆ ได้ต่อไป เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวงจรผลิตภัณฑ์ และเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการนำผลิตภัณฑ์นั้นๆ ออกสู่ท้องตลาดต่อไป
Wal-Mart เป็นบริษัทที่ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีมาทำธุรกิจ และถือเป็นบริษัทรายแรกๆ ของอเมริกา ที่นำเครื่องเก็บเงินด้วยการนำเทคโนโลยีเครื่องอ่านบาร์โค้ดมาใช้ โดยเทคโนโลยีบาร์โค้ดที่ถูกนำมาใช้งานตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน ก็ได้พบถึงขีดจำกัดโดยธรรมชาติของตัวมันเองแล้ว ดังนั้น ในปี ค.ศ.2004 ทาง Wal-Mart จึงได้ริเริ่มทำเทคโนโลยี RFID มาใช้ และ RFID ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจค้าปลีกอีกครั้ง โดยถูกนำมาเป็นส่วนหลักของการพัฒนาโซ่อุปทานของบริษัท ควบคู่ไปกับการใช้ระบบ EDI ในการแลกเปลี่ยนเอกสารและประสานงานกับผู้ขายปัจจัยการผลิต การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง การจัดการโลจิสติกส์ ซึ่งล้วนแต่มีการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนเพื่อขับเคลื่อนไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างโอกาสในการทำกำไร ด้วยการมีพันธมิตรร่วมค้าที่เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตด้านสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ ส่งผลต่ออำนาจการต่อรองสินค้าสูง และช่วยลดต้นทุน จนกระทั่งกลายเป็นผู้นำทางด้านต้นทุนในที่สุด
ครั้นเมื่อมองธุรกิจของ Wal-Mart แล้ว จะพบว่าความได้เปรียบในเชิงแข่งขันของยักษ์ใหญ่ในวงการค้าปลีกรายนี้ เกิดจากการบริหารจัดการกิจกรรมต่างๆ ในห่วงโซ่คุณค่าอย่างมีประสิทธิภาพทาง Wal-Mart ได้ติดตั้งซอฟต์แวร์เพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้า เพื่อนำมาใช้ประเมินการใช้จ่ายและประเมินพฤติกรรมการใช้เงินของลูกค้า ข้อมูลเหล่านี้จะถูกจัดส่งให้กับผู้จัดส่งสินค้าของ Wal-Mart และยังมีการใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อใช้บริษัทบริหารสต็อกสินค้าอีกด้วย ดังนั้นสินค้าที่ขายดีภายในห้าง ก็จะได้รับการเติมเต็มอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้อนให้กับผู้ซื้อตรงตามปริมาณความต้องการ ทำให้ผู้ซื้อหรือสินค้าได้รับความพึงพอใจ คลายความกังวลกับสินค้าขาดตลาด ที่มิใช่เป็นกรณีของสินค้าขาดสต็อก และทำสูญเสียโอกาสในการขายไป
กลยุทธ์อันสำคัญของทาง Wal-Mart ก็คือ การซื้อมาในราคาต่ำ ขายไปในราคาถูก และมุ่งทำกำไรจากยอดปริมาณการขายที่ขายออกไปอย่างรวดเร็ว และเร็วกว่าคู่แข่งขันรายอื่นๆ โดย Wal-Mart มีการใช้ระบบเติมเต็มสินค้าคงคลังแบบอัตโนมัติ ด้วยการใช้พื้นที่ภายในห้าง เป็นที่จำหน่ายสินค้าและสต็อกสินค้าบนชั้นในคราวเดียวกัน สินค้าที่นำมาเติมให้เต็มจะถูกดำเนินการตามพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้า โดยมีระบบสารสนเทศที่เชื่อมโยงถึงกันทั้งระบบร่วมกับผู้ขายหรือซัปพลายเออร์รายต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงระบบเพื่อตรวจสอบได้ตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการสร้างโอกาสในการขาย ซึ่งเป็นที่ของกำไร และช่วยลดรายจ่ายจากการกักตุนสินค้าและคลังสินค้า โดยความสำเร็จเหล่านี้ ล้วนมาจาก การนำเทคโนโลยีมาบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่า ลูกค้าแม้อยู่ห่างไกลจากแหล่งที่ตั้งของตัวห้าง ยังเจาะจงเดินทางเข้ามาเพื่อจับจ่ายซื้อสินค้ากับทางห้างด้วยความยินดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น